กลยุทธ์พื้นฐานสำหรับการสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ
ดร.บุญช่วย สายราม
การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ
ทักษะการสร้างทีมงานที่มีความจำเป็นสำหรับนำองค์การทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการ ผู้ประกอบการหรือผู้บริหารหน่วยงานทุกประเภท ล้วนต้องอาศัยทักษะการสร้างทีมงานขั้นพื้นฐานเพื่อให้สามารถกำหนดความสำเร็จของโครงการหรือแผนงานต่างๆขององค์การ หลายโครงการหรือกิจกรรมต่างๆที่ประสบความล้มเหลวหรือความสำเร็จเป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันเป็นทีมและทีมงานที่ยิ่งใหญ่ซึ่งส่งผลให้เกิดความสำเร็จทั้งในระดับบุคลและระดับองค์การ การทำงานเป็นทีมทำให้ทุกคนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและจะเป็นการประสบความสำเร็จด้วยตัวของบุุคลเอง องค์กรและกลุ่มที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม โดยการสร้างสภาพแวดล้อมที่นำไปสู่การปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมาย เกิดความคิดสร้างสรรค์และเกิดความรู้สึกของการเป็นเจ้าของในผลงานร่วมกันของทีมงาน ซึ่งโดยทั่วไปนั้นจำเป็นต้องอาศัย 8 กลยุทธ์ขั้นพื้นฐานสำหรับการสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพคือ
1. การมีเป้าหมายร่วมกัน
ความสำเร็จในการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ จะต้องมีเป้าหมายเดียวที่ชัดเจน มีการสื่อสารวัตถุประสงค์และเป้าหมายของทีมงาน
ความสำเร็จในการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ จะต้องมีเป้าหมายเดียวที่ชัดเจน มีการสื่อสารวัตถุประสงค์และเป้าหมายของทีมงาน
2. การมีเป้าหมายชัดเจน
การสื่อสารที่ชัดเจนจะช่วยให้สมาชิกในทีมมีความเข้าใจของวัตถุประสงค์โดยรวม และจำเป็นต้องมีการสื่อสารบ่อยๆ เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติงานในด้านต่างๆเพื่อก่อให้เกิดการติดตามผลการปฏิบัติงานตามโครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง
การสื่อสารที่ชัดเจนจะช่วยให้สมาชิกในทีมมีความเข้าใจของวัตถุประสงค์โดยรวม และจำเป็นต้องมีการสื่อสารบ่อยๆ เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติงานในด้านต่างๆเพื่อก่อให้เกิดการติดตามผลการปฏิบัติงานตามโครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง
3. การมีความมุ่งมั่นของสมาชิกในทีมแต่ละคน
สำหรับกลุ่มคนที่จะทำงานเป็นทีมงานที่มีประสิทธิภาพจะต้องอาศัยความมุ่งมั่นของสมาชิกในทีม การที่การปฏิบัติงานเป็นทีมส่วนมากล้มเหลวก็เพราะการขาดของความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานของสมาชิกในทีมงาน
สำหรับกลุ่มคนที่จะทำงานเป็นทีมงานที่มีประสิทธิภาพจะต้องอาศัยความมุ่งมั่นของสมาชิกในทีม การที่การปฏิบัติงานเป็นทีมส่วนมากล้มเหลวก็เพราะการขาดของความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานของสมาชิกในทีมงาน
4. การปฏิบัติหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด
เป้าหมายของการทำงานเป็นทีมคือการรวมกลุ่มบุคคลที่มีทักษะเฉพาะที่จะบรรลุเป้าหมายของการปฏิบัติงานร่วมกัน ผลลัพธ์ของการปฏิบัติงานของทีมจึงขึ้นอยู่กับทักษะของสมาชิกในทีมแต่ละคนโดยการประกันประสิทธิภาพการทำงานของสมาชิกทุกคนจึงจะส่งผลการทำงานร่วมกันของทีมมีประสิทธิผล
เป้าหมายของการทำงานเป็นทีมคือการรวมกลุ่มบุคคลที่มีทักษะเฉพาะที่จะบรรลุเป้าหมายของการปฏิบัติงานร่วมกัน ผลลัพธ์ของการปฏิบัติงานของทีมจึงขึ้นอยู่กับทักษะของสมาชิกในทีมแต่ละคนโดยการประกันประสิทธิภาพการทำงานของสมาชิกทุกคนจึงจะส่งผลการทำงานร่วมกันของทีมมีประสิทธิผล
5. สมาชิกในทีมมุ่งความสำเร็จร่วมกัน
ทัศนคติของบุคคลเป็นสิ่งที่เข้าใจยากที่สุด การปฏิบัติงานที่เหมาะสมกับบทบาทและหน้าที่เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายหรืองานที่มีความท้าทาย ผู้นำทีมจึงต้องกระตุ้นจูงใจสมาชิกของทีมและกำหนดตัวบุคคลให้เหมาะสมกับทักษะการปฏิบัติงาน
ทัศนคติของบุคคลเป็นสิ่งที่เข้าใจยากที่สุด การปฏิบัติงานที่เหมาะสมกับบทบาทและหน้าที่เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายหรืองานที่มีความท้าทาย ผู้นำทีมจึงต้องกระตุ้นจูงใจสมาชิกของทีมและกำหนดตัวบุคคลให้เหมาะสมกับทักษะการปฏิบัติงาน
6. การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีในทีม
การสื่อสารเป้าหมายของการปฏิบัติงานกับมวลสมาชิกในทีมเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยอาศัยเครื่องมือหลายชนิด เช่นอีเมล, โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นการสื่อสารที่ไม่เป็นทางการ จึงเป็นทางเลือกของผู้นำสมัยใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์กับสมาชิกโดยอาศัยเครื่องมือสื่อสารเพื่อสร้างความเป็นกันเองแบบไม่ต้องเป็นทางการในการสื่อสาร
การสื่อสารเป้าหมายของการปฏิบัติงานกับมวลสมาชิกในทีมเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยอาศัยเครื่องมือหลายชนิด เช่นอีเมล, โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นการสื่อสารที่ไม่เป็นทางการ จึงเป็นทางเลือกของผู้นำสมัยใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์กับสมาชิกโดยอาศัยเครื่องมือสื่อสารเพื่อสร้างความเป็นกันเองแบบไม่ต้องเป็นทางการในการสื่อสาร
7. เน้นการมีส่วนร่วมในการทำงานเป็นทีม
ผู้นำทีมสามารถบอกได้เมื่อทีมงานได้ใช้เวลาร่วมกันทั้งในการทำงานและสภาพแวดล้อมทางสังคมต่างๆ ทีมที่ประสบความสำเร็จและสามารถคาดหวังผลสำเร็จร่วมกันปัจจัยที่สำคัญก็คือการที่สมาชิกทุกคนได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานต่างๆและเป็นเจ้าภาพร่วมกันในทุกๆงาน
ผู้นำทีมสามารถบอกได้เมื่อทีมงานได้ใช้เวลาร่วมกันทั้งในการทำงานและสภาพแวดล้อมทางสังคมต่างๆ ทีมที่ประสบความสำเร็จและสามารถคาดหวังผลสำเร็จร่วมกันปัจจัยที่สำคัญก็คือการที่สมาชิกทุกคนได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานต่างๆและเป็นเจ้าภาพร่วมกันในทุกๆงาน
8. การมีภาวะผู้นำร่วม
การปฏิบัติงานร่วมกันของสมาชิกในทีมต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความชำนาญเฉพาะของสมาชิกแต่ละคน การปรับเปลี่ยนบทบาทผู้นำทีมโดยเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ใช้ความเป็นผู้นำในการปฏิบัติงานนั้นสามารถปรับปรุงหรือพัฒนาคุณภาพของงานและทำให้สมาชิกของทีมเห็นคุณค่าและมีความภูมิใจในตนเองและสมาชิกในทีม
การปฏิบัติงานร่วมกันของสมาชิกในทีมต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความชำนาญเฉพาะของสมาชิกแต่ละคน การปรับเปลี่ยนบทบาทผู้นำทีมโดยเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ใช้ความเป็นผู้นำในการปฏิบัติงานนั้นสามารถปรับปรุงหรือพัฒนาคุณภาพของงานและทำให้สมาชิกของทีมเห็นคุณค่าและมีความภูมิใจในตนเองและสมาชิกในทีม
Reference
University of California. Steps to Building an Effective Team.Human Resources,2014.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น